เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่ผ่านมา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมกรรมการบริหาร คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่ห้องประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ (บ้านอัมพวัน)

ก่อนการชุม ศ.เจริญ วรรธนะสิน รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคฯ ได้เป็นตัวแทนกล่าวคำอวยพรปีใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ, “บิ๊กอ๊อด” พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ และ “บิ๊กจา” พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประธานกิตติมศักดิ์ตลอดชีพ ซึ่ง “บิ๊กป้อม” กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาวงการกีฬาของไทยและนักกีฬาไทย ให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป เพราะลำพังตนเองเพียงคนเดียวทำไม่ได้แน่นอน ต้องอาศัยทุกภาคส่วนร่วมกันอย่างเต็มที่

“ผมขอให้ทุกฝ่ายทั้งโอลิมปิค, กกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งสมาคมกีฬาต่างๆ เอาใจถึงใจ ช่วยกันทำงาน ให้คิดดีทำดีกับการกีฬา ขอให้เสียสละทำงานเพื่อชาติ โดยในปีใหม่ 2566 นี้ ผมหวังว่าทุกฝ่ายจะทำงานเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคให้กับนักกีฬา รวมถึงไม่ให้เกิดความขัดแย้งต่อกัน เราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง หากเราร่วมมือร่วมใจกัน ผมมั่นใจว่าวงการกีฬาของไทย จะประสบความสำเร็จและเจริญก้าวหน้าอย่างแน่นอน” บิ๊กป้อม กล่าว

จากนั้นที่ประชุมได้หารือถึงวาระต่างๆ มีประเด็นสำคัญคือเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของสมาคมกีฬา ในการเตรียมทีมนักกีฬาทีมชาติไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาในปี 2566 ทั้ง ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กัมพูชา, เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีน รวมทั้งเอเชี่ยนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่กรุงเทพมหานคร และ จ.ชลบุรี จะร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ย้ำอย่างหนักแน่นในที่ประชุมว่า กกท. และกองทุนฯ จะต้องร่วมกันดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้นักกีฬาต้องเดือดร้อนคำพูดจาก สล็อต789

“ต่อไปนี้เรื่องเงินในส่วนของนักกีฬาจะต้องเป็นไปตามไทม์ไลน์ เงินจะต้องออกตามกำหนด โดยเฉพาะ กกทคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. จะต้องทำให้ได้ ภายใต้ระเบียบวินัยการเงินการคลัง เรื่องการบริหารจัดการเป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร ซึ่งนักกีฬาเกี่ยวข้องกับเรื่องเงินอย่างเดียว ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ หากผู้บริหารหรือเจ้าหน้าที่คนไหนทำไม่ได้ ก็ให้ไปหาคนใหม่มาทำแทน” บิ๊กป้อม ย้ำเสียงดังในที่ประชุม

ขณะที่ ดร.ปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนการกีฬาแห่งชาติ ที่ได้รับมอบหมายจาก ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. มารายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุม กล่าวว่า งบประมาณเตรียมทีมสู้ศึกเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 จะสามารถเบิกจ่ายได้ภายในสัปดาห์หน้า ส่วนงบเตรียมซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ยังต้องรอเอกสารจาก กกท. อีกครั้ง ขอยืนยันว่า กองทุนฯ และ กกท. ร่วมมือกันทำงานเพื่อให้นักกีฬาทีมชาติไทย ได้รับเงินตามนโยบายของทางประธานโอลิมปิคฯ อย่างแน่นอน.